ซีรี่ย์ฝรั่ง ซีรี่ย์จีน ซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ย์มากมาย ครบทุกรส ทุกแนว

ซีรี่ย์ฝรั่ง หนังเต็มเรื่อง HD

ซีรี่ย์ฝรั่ง  Brightburn ใช้คำโปรยปรายโปรโมทด้วยคำว่า “จากวิสัยทัศน์ของ James Gunn ผู้ผลิต Guardians of the Galaxy” ที่จะมานำเสนอความสดใหม่รวมทั้งล้มวิถีทางซูเปอร์วีรบุรุษเก่าๆด้วยการเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์วีรบุรุษสยองขวัญ ที่ว่าเรื่องราวของเจ้าหนู Brandon Breyer ที่เลียนแบบพลังมาจากซูเปอร์แมนดูเหมือนจะทั้งหมด (มีเพิ่มเป็นพลังควบคุมไฟฟ้า) รวมทั้งมีการดำเนินเรื่องในวิถีทางซูเปอร์แมนเติบโตมาเป็นเด็กสารเลวแทนว่าจะกำเนิดอะไรขึ้นบ้าง

นี่เป็นหนังที่ผู้ชมควรดูหนัง Man of Steel มาก่อนถึงจะเก็ทกับหลายๆอย่างที่หนังถอดเอาไปแปลงเป็นแนวสยองขวัญ ซึ่งหนังก็ย้ำทำแนวสยองขวัญเจริญ ตัวหนังมีความแหวะใหม่ๆหลายฉาก ซึ่งหนังก็เจตนาย้ำMLMนี้กระจ่างตั้งแต่ในเทรลเลอร์แล้ว เรียกว่าถ้าหากอยากมองวิธีการแบบนี้ก็คงจะไม่ผิดหวังเท่าใด เพราะเหตุว่าถึงจะใช้เรื่องราวการเจริญเติบโตแบบ Man of Steel มาเป็นเมนหลัก ที่ว่าด้วยเด็กอ่อนที่ตกลงมายังโลกด้วยยานอวกาศ แล้วมีบิดามารดาบุญธรรมรับเลี้ยงโดยมีความคิดว่าวันใดวันหนึ่งเด็กคนนี้จะต้องมีเหตุผลต่อโลก

แต่ว่าหนังกลับเลือกทางเล่ากล้วยๆหวัดๆด้วยการทิ้งความเจริญของนักแสดงที่ควรเป็นจริงไปหมด  ซีรี่ย์ฝรั่ง จากเด็กที่ครอบครัวอบอุ่นบิดามารดาเลี้ยงมาดี เปลี่ยนไปมาเป็นเด็กปีศาจร้ายเลวข้ามคืน ด้วยการปลุกพลังด้านมืดที่เชิญชวนให้มีความคิดว่ามาจากภูติผีปีศาจมากยิ่งกว่าจะเป็นแถวไซไฟต่างดาวแบบซูเปอร์แมน หนังกลับเร็วมากๆแล้วก็ไม่อุตสาหะชี้แจงอะไรเลยว่าเพราะเหตุไรเจ้าหนูนี่จำต้องวาดภาพบ่อยๆใส่หน้ากากถุงกระสอบแปลกๆพกผ้าที่มีไว้คลุมแดงใส่บินไปบินมา เพียงแค่ตั้งใจให้ราวกับซูเปอร์แมนแค่นั้น

แถมฆ่าคนและจากนั้นก็ถูกใจทิ้งเครื่องหมายไว้ ที่บอกใบ้ว่ามาจากชื่อย่อ BB > Brandon Breyer กลับมารู้สึกตกที่นั่งลำบากที่โดนตำรวจตามมาข้องแวะ หลายๆอย่างของหนังไม่เมคเซนส์ในเชิงที่จะเกิดเรื่องราวการเจริญเติบโตของเด็กที่เป็นด้านมืดของซูเปอร์แมนได้เลย ซึ่งเดือนนี้ก็มีหนังซีรีส์อย่าง The boys ทางเดียวกันเป็น เมื่อซูเปอร์วีรบุรุษเปลี่ยนเป็นสายดาร์คจะกำเนิดอะไรขึ้น ซึ่งตัวร้ายสุดของหนังก็เป็นแถวซูเปอร์แมนเหมือนกัน The boys ทำเป็นดีมากกว่ามากมาย และมีเหตุมีผลความเป็นมาดียิ่งกว่า Brightburn ที่ตั้งจิตใจเพียงแค่กลับหัวกลับหางหนัง Man of Steel มาใช้แบบชุ่ยๆเพียงแค่นั้น

บางทีอาจจะด้วยทุนสร้างเพียงแค่ 6 ล้านเหรียญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังทุ่นต่ำมากมาย หนังก็เลยไม่พากเพียรทำฉากเอฟเฟ็กต์อะไรเกินกำลังไป ก็เลยเน้นย้ำใช้ความน่าขนลุกแบบอึมครึม ที่เจ้าหนู Brandon Breyer แสดงออกมาเป็นหลัก อย่างการแอบลอยตัวดูเพื่อนพ้องสาวนอกหน้าต่าง ข้างหลังบิดาอุตสาหะสอนว่าให้ปล่อยความรู้สึกกลัดมันออกมาได้ ซึ่งตัวผู้แสดงเด็ก Jackson A. Dunn เล่นเจริญ อีกทั้งใบหน้า สายตา ลีลาดูอย่างกับว่าเด็กที่ไม่ทราบไม่ถูกถูกชั่วช้าดี ออกแนวโรคทางจิตๆที่เพียงแค่มองเห็นก็จะต้องกลัวแล้ว

แม้กระนั้นปัญหาก็ตามที่บอกตอนต้น หนังเปลี่ยนบุคคลิกไวกระทั่งทอดทิ้งตอนวิวัฒนาการจากเด็กดีไปเหลวแหลกไปอย่างโชคร้าย ถึงแม้ว่าหากเน้นย้ำให้เป็นหนัง Coming of Age แบบดาร์ค ก็คงจะมีอะไรมาให้เล่นมากยิ่งกว่าการเปลี่ยนปุบปับอย่างนี้ แม้ว่าจะกล่าวถึงว่าถูกยานต่างดาวส่งสัญญาณมาสั่งตรงสมสู่อง ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต กลับไม่มีเนื้อหาให้มองเห็นแบบที่ซูเปอร์แมนเข้าไปพบเรื่องราวข้อมูลที่ได้มาจากยานเลย

ซึ่งอาจจะเพราะเหตุว่าทุนต่ำเกินกระทั่งไม่สามารถที่จะใส่อะไรแนวๆนี้มาได้ ปริมาณยานต่างดาวในโรงนายังดูราวกับว่าของเก๊ติดไฟให้มองเบลอๆดูเนื้อหาไม่ออก แถมมี CG ลอยๆแบบถ่ายกรีนสกรีนแล้วเอาฉากฟ้ามาสวมกล้วยๆบ่งบอกถึงถึงข้อกำหนดงานสร้างมากมาย แม้กระนั้นดังนี้ในส่วนฉากที่บินไปๆมาๆด้วยสปีดความเร็วสูงยังดูโอเค มองเกิดเรื่องน่าสยองไปได้เลยว่าถ้าหากซูเปอร์แมนบินชนคนไหนก็คงจะเหลวเป็นโจ๊กแบบที่เจ้าหนูในหัวข้อนี้ทำ

ในส่วนของบิดามารดาบุญธรรมนี้ก็มิได้มีอะไรน่าจำนัก  ซีรี่ย์ฝรั่ง   เพราะเหตุว่าบทที่ให้ลูกเปลี่ยนแปลงบุคคลิกกระทันหันชั่วช้าข้ามคืน หนังก็โบ้ยไปให้ว่าบิดามารดารู้สึกว่าฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไปสู่ตอนวัยรุ่น แล้วก็บากบั่นพรีเซนเทชั่นในแบบที่แข็งทื่อๆว่า “ลูกฉันเป็นเด็กดี” ทั้งที่พึ่งบีบมือสหายกระดูกแตกไป มันก็ไม่ธรรมดาแล้ว แม้กระนั้นหนังก็ทำเสมือนเรื่องเกินปกตินิดหน่อยเพียงแค่นั้น พร้อมด้วยเดินเรื่องราวให้บิดากลัวลูก แม้กระนั้นแม่รักลูกสุดๆแม้กระนั้นในที่สุดหนังก็มิได้ทำให้เกิดความรู้สึกถึงอารมณ์ร่วมอะไร หากแม้ตอนสุดท้ายจะอุตสาหะบิ้วให้มองมีใดๆครั้ง…

ท้ายที่สุดแล้วทั้งยังบิดาและก็แม่ก็มีบทเล่นได้เพียงแค่เป็นเหยื่อของเจ้าหนูนี่เพียงเท่านั้น มิได้มีความลึกล้ำผูกพันอะไรอย่างที่หนังต้นแบบ Man of Steel ทำออกมาข้อเสีย เด็กพลังอสุรี ข้อเสียของเจ้าหนู เด็กพลังยักษ์ นี่เป็นยังไง คนไม่ใช่น้อยอาจสงสัยแล้วต้องการไปดู แม้กระนั้นบอกเลยก็แนวเดียวกับซูเปอร์แมนนั่นแหละนะครับโชคร้ายว่าที่จริงหนังมีพล็อตที่ดีอยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่แปลกใหม่

แต่มารวบรัดตัดตอนจะขายเพียงแค่ความสยดสยองไวๆ(หนังสั้นมากมายเพียงแค่ 90 นาทีรวมเครดิต) กระทั่งทำให้การเปรียบเทียบว่าเป็นด้านดาร์คของเด็กที่โตมาเป็นซูเปอร์แมนอาจจะไม่เหมาะสมนัก กลับเสมือนหนังเด็กมารอะไรอย่างนั้นมากยิ่งกว่า ซึ่งเอาจริงเอาจังๆควรที่จะนำไปสร้างเป็นซีรีส์ฉายยาวๆให้มองเห็นถึงความก้าวหน้าแบบ The boys จะดีมากยิ่งกว่ามากมาย ซึ่งถ้าหากผู้ใดถูกใจแนวดาร์คอยากเสนอแนะให้มองมากยิ่งกว่า Brightburn ที่มองจบแล้วโล่งเตียนๆกลวงๆไม่มีอะไรให้มากยิ่งกว่าเทรลเลอร์หนังที่ปลดปล่อยออกมา

หนังจบแบบค้างไว้ให้มีต่อได้สบายๆแถมด้วยเอนเครดิตล้อไปยังเรื่องอื่นของ DC ว่าถ้าเกิดนักแสดงอื่นเว้นเสียแต่ซูเปอร์แมนเป็นตัวชั่วช้าอย่างนี้จะเป็นยังไง ซึ่งก็ราวกับทิ้งเชื้อไว้ให้เป็นจักรวาลดาร์คซูเปอร์วีรบุรุษ โดยกะว่าเอาการนี้มาทดสอบ ถ้าหากดังคงจะทำต่อแน่ๆ ดูหนังผ่านเน็ต ซึ่งจากปัจจุบันนี้หนังได้กำไรไปเยอะแยะ แต่ว่าเสียงวิภาควิจารณ์สวนมากมาย ก็ไม่รู้เรื่องว่าท้ายที่สุดอุตสาหกรรมครอบครัวของ James Gunn ที่ดึงลูกพี่ลูกน้องแท้ๆมาเขียนบท (Brian Gunn, Mark Gunn) จะไปต่อหรือเปล่า สำหรับคนถูกใจหนังแนวดาร์คๆก็อาจตามไปดูต่ออยู่ดี แม้ว่าจะไม่โอเคกับ Brightburn ที่เกิดเรื่องราวเปิดจักรวาลนี้นักครับผม

Deadpool 2 เดดพูล 2

หนัง Deadpool 2 หรือชื่อไทยว่า เดดพูล 2 ในภาคนี้ Deadpool จำต้องมาคุ้มครองเด็กอ้วนจาก Cable คู่แข่งขันคนใหม่ที่มาเพื่อฆ่าเด็กคนนี้โดยยิ่งไปกว่านั้น ด้วยเหตุดังกล่าวเขาก็เลยจำเป็นจะต้องรวมกลุ่มรวมทั้งตั้งกลุ่ม X-Force ขึ้นมา ซึ่งรวมไปด้วย Domino มนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีพลังโชคดี, Negasonic มนุษย์กลายพันธุ์สาวหัวโล้นสุดแสบจากภาคแรก, Colossus มนุษย์กลายพันธุ์ผู้มีร่างกายเป็นเหล็กกล้า , Bedlam มนุษย์กระแสไฟฟ้าชายผิวดำ ผู้มีร่างกายล่ำสันบึกบึน, Surge มนุษย์กระแสไฟฟ้าสาวทวีปเอเชีย รวมทั้งฯลฯ

หนังลูกรักของ ไรอัน เรย์โนลด์ ได้ก้าวไปสู่บทพิสูจน์อีกขั้น ซีรี่ย์ฝรั่ง  ของหนังภาค 2 ซึ่งปราบเซียนความคาดหมายมานักต่อนัก แม้กระนั้นเดดพูลทำออกมาก้าวหน้าจนกระทั่งน่าตกใจ แปลงเป็นหนังแอนตี้วีรบุรุษกวนส้นที่สนุกสนาน จิกกัด และก็สนุกมากมายๆมาตอนนี้หนังได้เงินทุนที่สูงขึ้น แอคชั่นสนุกราวกับภาคเก่า มีตัวบทที่เรียบง่ายแล้วก็ถูกดีไซน์มาดีกว่าเดิมเสียอีก ไม่ประหลาดใจเลยที่จะสามารถชนะใจผู้ชมได้มากกว่าเพียงแค่ภาพยนตร์ตลกทั่วๆไปDeadpool 2 เป็นหนังที่ขายขี้หน้าหนังด้วยการเฮฮาแบบสุดกู่ ไร้เหตุผล

รวมทั้งค่อนไปทางไม่มีสาระ แต่ว่าพอเพียงเข้าไปมอง พวกเราจะเจอกรรมวิธีการพรีเซ็นท์ที่แท้จัง ดูหนังผ่านเน็ต แนบเนียนไปกับความสติพังทลายของตัวเดดพูล ตั้งแต่ภาคแรกแล้ว จะมีใต้บรรทัดที่เอ๋ยถึง “การเฮฮาไปบ่อย” ของเดดพูลเป็นการ “หลบซ่อน” ความเป็นจริงที่ปวด ซึ่งพวกเราจะมองเห็นแนวความคิดหนักๆรูปแบบนี้อยู่ตามการดำเนินเรื่องเสมอซึ่งภาคนี้ได้ขยายความปวดของเดดพูลไปสู่อีกจุดหนึ่ง จากแฟนที่ไม่มีทางเป็นไปได้เปลี่ยนเป็นเรื่องราวของครอบครัว ที่เข้าไปตรวจสอบถึงความรู้สึกของเดดพูลให้มากเพิ่มขึ้น

วนเวียนอยู่กับตัวร้ายสุดโก้ แล้วก็รอกล่าวถึงเรื่องราวของครอบครัวที่บ้าๆ จริงๆมันมีความ Guardian Of Galaxy อยู่มากมาย แต่ว่าในแง่เรต R แล้วก็กวนส้นในทุกระดับทำให้มันมีรสอารมณ์เสพที่แปลกดีจากหนังที่น่าจะไม่มีประโยชน์สุดคัลท์ ก็ให้อะไรที่เหนือการคาดการณ์จากความไม่มีประโยชน์ ซึ่งเป็นการขายหนังที่ออกจะเสี่ยง แต่ว่าพอเพียงหนังทำออกมาได้ดิบได้ดี ติดต่อสื่อสารแบบไม่อ้อมค้อม มันเลยไปเหนือความมุ่งมาด และก็ทำให้หนังน่าประทับใจมากยิ่งกว่าธรรมดา

เดดพูลเป็นหนังที่มีเรื่องราวที่เข้มข้น แอคชั่นบันเทิงใจ การแสดงกวนส้น กัดจิกอย่างมัน แหกขนบการใช้เพลง ไม่มีความต่างจากภาคแรก หลายๆอย่างทำให้เดดพูลเป็นหนังที่เด่นในหลายๆความหมาย แล้วก็เสพตลกโปกฮาก็ตลกขบขัน เสพดราม่าก็ดราม่า หนังมีมาตรฐานที่สูงแตกต่างกันกับความไม่มีสาระของมันอย่างสินเชิงมีเครดิต 2 ตัวช่วงท้าย ซึ่งก็เป็นการจิกกัดที่ดีเลิศๆนับว่าเป็นว่าหนังที่สร้างความตรึงใจให้ผมพอเหมาะพอควรเลยล่ะ จะรอคอยภาคถัดไปแน่ๆเดดพูล แอนตี้วีรบุรุษเรท R กลับมาบ้าอีกที

คราวนี้เค้าจำเป็นต้องพบเจอกับศัตรูลึกลับที่มาจากอนาคต เคเบิล ซีรี่ย์ฝรั่ง  ที่ย้อนเวลามาเพื่อตามล่าเด็กไม่วแทนท์คนนึงที่เดดพูลบังเอิญไปรู้จักและก็คลุกคลีด้วยพอดิบพอดี งานนี้เดดพูลก็เลยจะต้องรวมกลุ่มกับเพื่อนพ้องๆอีกทีเพื่อสกัดกั้น เคเบิล ให้ได้แปลงเป็นหนังที่ถูกใจเยอะที่สุดเรื่องนึงในปีนี้ ดูหนังผ่านเน็ต สำหรับผมมันพอดีไปหมด ราวกับเอาภาคแรกมาขยี้ให้สุดให้บ้าๆบอๆมากกว่าเดิม กล่าวได้ว่าสื่อความเป็นเดดพูผุดผ่องกมาได้สุดเท่าที่จะทำเป็นแล้ว เป็นหนังที่ขบขันสูงที่สุดเรื่องนึงเท่าที่เคยมองเลยก็ว่าได้ แถมยังยกฐานะตัวบทให้ออกมาดีเพิ่มขึ้น มีจุดให้เซอร์ไพร์สผู้ชมอยู่ แม้กระทั่งมิได้คาดคะเนยากอะไรนักก็ตาม

เดดพูล ภาคนี้หนังเสมือนจะปั้นตนเองให้สิ้นคิดมากมายแค่ไหนก็ตาม แกล้งบ้าขนาดไหนก็ตาม แต่ว่ากลุ่มเขียนบทเสมือนรู้ดีว่าขอบเขตของตนเองสามารถที่จะนำมาใช้เพื่อทำอะไรได้บ้าง ความเป็นเดดพูลทำอะไรได้มากแค่ไหน และก็ทำเป็นถึงในแบบที่มันควรเป็น ดูหนังผ่านเน็ต ซึ่งที่ตรงนี้ก็แปลงเป็นสเน่ห์ของหนังหัวข้อนี้ไปเลย ซึ่งเอาจริงเอาจังๆพวกเราก็รับทราบได้ตั้งแต่การครีเอทีฟ การโฆษณาต่างๆภาคนี้ทำเป็นดีแล้วก็น่าดึงดูดมากมาย สนุกสนานไม่แพ้กับหนัง และก็ในหนังก็ทำออกมาได้จำพวกที่ว่า คิดได้ยังไง อย่างยิ่งจริงๆ

แล้วก็ด้วยสิ่งที่ผมกล่าวไปแล้วตามข้างต้น ถ้าเกิดคุณเป็นเนิร์ดคนนึง คุณจะขบขันกับความ มีปากก็บอกไปของเดดพูลมากๆมันจิกมันกัดคนโน่นคนนี้ในทุกลมหายใจเลย แม้กระนั้นหนังก็มิได้เน้นย้ำเพียงแค่ความฮาความสั้นของตัวเดดพูลเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นในส่วนอื่นเป็นต้นว่างานโปรดัคชั่น ซีจี เพลงประกอบ ทำเป็นดีโคตรๆเลย แถมฉากแอคชั่นก็ยังดียิ่งกว่าภาคแรกมากมาย แต่ว่าที่ผมถูกใจที่สุดก็คือการที่หนังภาคนี้ มันสร้างซีนที่น่าจำหลายต่อหลายซีน รวมถึงผู้แสดงเล็กผู้แสดงน้อย ที่หากแม้บางตัวจะมองไม่มีมิติมากมายๆแม้กระนั้นก็น่าจำสุดๆหากคุณได้ไปดูคุณก็จะทราบได้ในทันทีว่าผมเป็นคนไหนกันแน่หรือซีนไหนบ้าง

แทบจะเป็นศูนย์นะ อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีเพียงแค่ตอนองค์แรกที่มองเนือยๆและก็รู้สึกฉีกจากธีมของอีกทั้งเรื่องบ้าง ซีรี่ย์ฝรั่ง  แม้กระนั้นก็มิได้มีผลต่อภาพรวมของหนังมากสักเท่าไรนักปีนี้บางทีอาจเป็นปีทองคำของหนังซุปเปอร์วีรบุรุษก็ได้  เพราะว่าผ่านไป 3 เรื่องแล้วในปีนี้ผมออกจะถูกใจมากมายทั้งหมดทั้งปวง แม้คุณรักในสิ่งที่เดดพูลทำ ไม่ว่าจะเคยได้เห็นมันจากคอมิกส์ หรือ เคยดูหนังภาคแรก หรือ Wolverin Origins มาก็ตาม ห้ามพลาดภาคนี้ด้วยประการทั้งปวง ยืนยันว่าไม่ผิดหวังอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ผมยังไม่เอ่ยถึง อาฟเตอร์เครดิตซีนที่ตอกย้ำซ้ำเติมความสุดทางของ เดดพูลเลยค่ะเนี่ย ห้ามพลาดเด็ดขาดนะครับ

Monster กฏหมายอเมริกาสีเทาๆรวมทั้งความเป็นมนุษย์ของเด็กผิวสี

หนังที่ได้รับเลือกไปฉายเทศกาลภาพยนต์ Sundance เมื่อปี 2018 จนได้มาลง Netflix แล้วช่วงนี้ กับเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นสีผิวอนาคตไกล ที่ชีวิตแปรไปแบบกลับเมื่อเขาโดนจับไปไปศาลในคดีฆ่าคนเสียชีวิต เปลี่ยนเป็นการต่อสู้ในชั้นศาลที่สะท้อนมุมมองของกฏหมายในอเมริกา รวมทั้งค่าชีวิตความเป็นมนุษย์ของเด็กผิวสีคนหนึ่งสตีฟ ฮาร์มอน ชายหนุ่มผิวสีวัย 17 ปี เรียนสถานที่เรียนชั้นหนึ่งของเมือง อยู่ในชุมนุมภาพยนต์ของสถานที่เรียน ครอบครัวดี มีบิดาเป็นจิตมือ อนาคตแจ่มใสอย่างยิ่ง แต่ว่าแล้วทั้งหมดทั้งปวงก็พังทลายลงในพริบตา

เมื่อเขาได้โดนจับจนถึงไปอยู่ข้างหลังลูกกรงในข้อกล่าวหาฆ่าผู้ตายร่วมกับคนอื่นๆ  ซีรี่ย์ฝรั่ง พวกเราจะเบาๆได้รับทราบเรื่องราวของชายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่ต้น จนกระทั่งแปลงเป็นการต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อใส่ความเป็นกลางให้กับตนเอง แล้วเรื่องราวของคดีทั้งปวง เขาเป็นผู้บริสุทธิ์จริงไหม หรือเขาเป็นแค่เพียงเด็กที่ถูกยัดข้อกล่าวหาด้วยเหตุว่าสีผิวของเขากันล่ะ? ถึงแม้เค้าเรื่องจะมองปกติ แม้กระนั้นด้วยความเป็นหนังที่ได้รับเลือกไปฉายในเทศกาลภายนต์ จังหวะการเล่าเรื่องต่างๆมันก็เลยออกมาดีเยี่ยม ทำให้เรื่องราวออกมาน่าดึงดูด

รวมถึงพรีเซนเทชั่นมุมมองที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องเดียวกันก็ตาม ตัวเรื่องจะเบาๆเฉลยคำตอบครั้งละนิด ละหน่อย สลับไปๆมาๆระหว่างชีวิตของเด็กวัยรุ่นอนาคตรุ่ง กับในตอนที่เขาอยู่ในตาราง กำลังขอคำแนะนำทนายความว่าจะต่อสู้คดียังไง มันเลยลุ้นว่าเรื่องราวที่จริงจริงที่มันเกิดขึ้นคืออะไรกันแน่ เพราะอะไรผู้ที่คงจะเกี่ยวเนื่องกับอาชญากรรม ถึงได้โดนจับยัดตารางอีกพาร์ทของเรื่องจะเป็นการต่อสู้ในชั้นศาล ตัดสลับกับสถานะการณ์ของเรื่องราว ผู้เห็นเหตุการณ์คนต่างๆหรือลูกขุน ที่พร้อมจะชี้หนุ่มน้อยคนนี้ว่าไม่ถูก

เพียงแค่เพราะว่าสีผิวของเขา รวมทั้งเขาอาจราวผู้อื่นโดยการว่าความก็จะมีทั้งยังทนายความข้างเชลยที่ทำทุกช่องทาง ดูหนังผ่านเน็ต คุ้มครองปกป้องอนาคตเด็กวัยรุ่นคนนี้ แม้ว่าจะจะต้องสู้กับอัยการที่มีฝีปาก พร้อมกินสินบน อุตสาหะทุกวิธีให้ตนเองชนะ ถึงแม้ว่าเชลยบางครั้งก็อาจจะเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วสรุปว่าตัวสตีฟเอง เป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่ มันเลยเป็นปริศนาเชิญให้พวกเราสงสัยในเรื่องอยู่เสมอ ซึ่งจะเฉลยคำตอบในช่วงท้าย พร้อมทั้งผลสรุปคดีที่เป็นฉากปกติแม้กระนั้นเชิญลุ้นรวมทั้งสนุกสนานมากมาย

หนังประเด็นนี้มันสะท้อนถึงเรื่องกฏหมายของอเมริกาที่ตัดสินโทษโดยลูกขุน คนเกี่ยวโยงในคดี ต่างข้างต่างแงะทุกสิ่งมาสู้กันเพื่อฝั่งตนเองชนะโดยไม่สนใจถึงความถูกต้องชัดเจน เพียรพยายามเอาอกเอาใจลูกขุนให้ตัดสินโทษ ผู้ที่พร้อมจะวินิจฉัยให้คนๆหนึ่ง มีความผิดแค่เพียงสีผิวของพวกเขา และก็นอกนั้นมันยังสะท้อนเรื่องราวของบริเวณทรุดโทรม พวกแก๊งค์ต่างๆจนกระทั่งอาชญากรรมที่เกิดเรื่องราวหลักในเรื่อง ดูหนังผ่านเน็ต

สิ่งที่พวกเรามองเห็นสำคัญๆเลยก็คือการบังคับใช้กฏหมายของอเมริกา การดูถูกผิว ที่หนังประเด็นนี้จะไม่บอกออกมาตรงๆแม้กระนั้นชี้ให้เห็น ดังเช่นสายลับผิวขาวไปที่บ้านของผู้แสดงนำ บอกกับบิดามารดาสตีฟว่าเพียงแค่ขอคุย พอเพียงเขาลงมาจู่ๆก็โดนจับใส่กุญแจมือโดยไม่สนใจสิทธิพื้นฐานอะไรทั้งหมด จับไปซนๆเพียงแค่เนื่องจากเขาเป็นชาวผิวสี หรืออัยการที่บากบั่นทำให้ตัวนำมีความผิด ชี้หน้าตัวนำว่าเขาเป็นมอนสเตอร์ เป็นภูติผีปีศาจ เพียงแต่เพราะยังเด็ก ผิวดำ แล้วก็ขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ เพียงเท่านี้ก็พอเพียงที่จะเข้าเรือนจำแล้ว แล้วก็เรื่องราวอื่นๆอีกหลายเรื่องที่มันเป็นด้านสีเทาๆจนกระทั่งมืด

ด้วยความเป็นหนังแข่งขัน นอกเหนือจากการเล่าที่ดีก็เป็นงานภาพ ซีรี่ย์ฝรั่ง  อย่างตัวนำจะเป็นเด็กที่ถูกใจการถ่ายรูปนิ่ง วีดีโอ เนื่องจากว่าเขาพอใจในประเด็นการทำภาพยนต์ ฉากต่างๆมันเลยรู้ว่ามามีสไตล์ ฉากในเรือนจำ หรือในศาล ก็ใช้สีสื่ออารมณ์ออกมาให้ผู้ชมรู้สึกบีบคั้นรวมทั้งเชื่อฟังไปกับเรื่องราวการว่าความที่เข้มข้นแม้กระนั้นท้ายที่สุดเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงมันก็มิได้สลับซับซ้อน เชิญชวนว้าว หรือทำให้พวกเราคิดว่ามันพิเศษกว่าเรื่องอีก เป็นเพียงแต่อีกหนึ่งมุมมองที่หนัง เกี่ยวกับ Black Live Matter บากบั่นสื่อออกมา

ซึ่งทำเป็นดีในโดยรวม ทั้งยังการเล่าเรื่อง งานภาพ ดาราหนัง แต่ว่ามันก็มิได้มีอะไรไปๆมาๆกกว่านี้แล้ว รวมทั้งอีกอย่างก็คือการต่อสู้ในชั้นศาลที่มองบันเทิงใจ แต่ว่าพวกหลักฐานต่างๆในคดีมันออกจะน้อย จนถึงหัวข้อมันพุ่งเป้ามาที่ความเป็นเด็กผิวสีของเรื่องมากเกินความจำเป็นจนถึงรู้สึกได้ และก็ข้อมูลหรือเรื่องราวด้านกฏหมายที่ตรงนี้มันเลยดูด้อยลงอปิ้งเห็นได้ชัดนี่เป็นหนังที่ทำออกมาเจริญเรื่องหนึ่งเลย พรีเซนเทชั่น ดูหนังผ่านเน็ต สะท้อนสังคมเกี่ยวกับบริบทกฏหมายที่เน่าเฟอะบางด้าน และก็เรื่องราวของชุมชน ชาวผิวสี

การต่อสู้ในชั้นศาลที่สนุกสนาน เชิญลุ้นตามไปถึงตอนสุดท้าย ลำดับ จังหวะการเล่าเรื่องแบบมีกลเม็ดเด็ดพราย แต่ว่าพอเพียงมองที่จริงแล้วเรื่องราวโดยรวมมันกลับกลายเรื่องปกติๆที่จับมามุมมองหลายๆมุมมานำเสนอ ซึ่งมันก็ดีแล้วในแบบของมัน แต่ว่าพวกเรามิได้มีความคิดว่ามันพิเศษ จนถึงทำให้เรื่องราวของข้อมูลกฏหมายนิดหน่อยที่คงจะเสนอได้ดีมากว่านี้ก็ด้อยลงไป แม้กระนั้นด้วยดีกรีหนังแข่งขันจากเทศกาล Sundance ปี 2018 นี่เป็นหนังจาก Netflix ที่ดีเลิศอีกหนึ่งเรื่องเลย

The Expanse SS1-4 มหากาพย์ไซไฟยุคสมัยใหม่

เนื่องจากว่าซีรีส์หัวข้อนี้มีมายาวนาน 5 ปีแล้วกับ 4 ฤดูกาล  ซีรี่ย์ฝรั่ง แล้วก็เลื่องลือมากมายในเมืองนอก แต่ว่าที่ไทยบางครั้งอาจจะไม่ค่อยดังมากเท่าไรนัก ถึงแม้ว่าเคยลง Netflix มาก่อนด้วยเหมือนกัน รีวิวนี้ก็เลยขอย้อนอดีตเรื่องราวภูมิหลังของหัวข้อนี้ก่อนที่จะมาอยู่ที่ Amazon Prime โดยประมาณให้ได้รู้เรื่องกันก่อนว่ามันเป็นมาอย่างไรถึงได้ย้ายค่ายจนกระทั่งมาอยู่ที่ Amazon เหมาะสุดนะครับ

ซีรีส์ประเด็นนี้สร้างขึ้นมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของ James S.A. Corey ที่เป็นนามสมมุติร่วมของนักประพันธ์ผู้ประพันธ์หัวข้อนี้สองคน Daniel Abraham กับ Ty Franck ทั้งสองอาศัยอยู่ในเมืองนิวเม็กซิโก ของอเมริกา โดยส่งผลงานนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องแรกในซีรีส์ The Expanse Leviathan Wakes วางขายเมื่อปี 2011 แล้วก็สำเร็จตอบรับบรรเจิดในทันที จนกระทั่งขั้นได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Hugo Award for Best Novel ปี 2012 รวมทั้งรางวัล Locus Award ปี 2012

สำหรับนิยายแนววิทยาศาสตร์ดีเลิศ ซึ่งเป็นตัวประกันความเลิศของหัวข้อนี้ได้ แล้วก็ทั้งสองก็ได้ปลดปล่อยผลงานสม่ำเสมอในซีรีส์ชุดนี้มาสม่ำเสมอติดๆกันเกือบทุกปี Caliban’s War (2012), Abaddon’s Gate (2013) แล้วก็อื่นๆจนกระทั่งในเวลานี้เป็นเล่ม 9 กำลังวางจำหน่ายปี 2021 ในชื่อ Leviathan Falls ที่ยังคงเกิดเรื่องราวต่อเนื่องกันมาทั้งปวงตั้งแต่เริ่มต้นและก็มาหมดที่เล่มนี้เป็นเล่มท้ายที่สุด

ในส่วนของซีรีส์ชุดนี้ถูกทำขึ้นแล้วก็ฉายทีแรกปี 2015 บนช่อง Syfy เคเบิลของอเมริกาที่เน้นย้ำแนวไซไฟของเครือ NBC โดยมีผู้ผลิต Mark Fergus กับ Hawk Ostby ที่เป็นคนเขียนบทเรื่อง Children of Men ที่ได้เข้าชิงออสการ์สามรางวัล ของผู้กำกับ Alfonso Cuarón ที่คนไม่ใช่น้อยบางครั้งอาจจะไม่คุ้นเชื่อเยอะแค่ไหนแต่ว่าหากกล่าวว่าเขาเป็นผู้กำกับเรื่อง Gravity คงจะร้องอ้อกันด้วยความสมจริงสมจังของฟิสิกส์ในห้วงอวกาศมากยิ่งกว่าเรื่องไหนๆที่เคยมีมาทั้งสิ้น ซึ่ง The Expanse เองก็ยึดมั่นวิธีนี้ไว้ด้วยด้วยเหมือนกัน

โดยซีรีส์ก็เคารพนับถือนิยายแล้วก็ทำตามอย่างลำดับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อเล่มเรียงแบบเดียวกันหมด ตั้งแต่ฤดูกาล 1 กระทั่งตอนนี้ถึงฤดูกาล 4 แล้วก็ฤดูกาล 5 ระบุฉาย 16 ธ.ค. 2020 ครับผมแม้กระนั้นกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ทุกข์ยากลำบากจนกระทั่งขั้นเช็ดดตัดจบมาแล้วจากช่อง Syfy ในฤดูกาล 3 แม้ว่าจะครีเอทงานสร้างได้เยี่ยมที่สุด แม้กระนั้นก็มีปัญหาทุนสร้างสูงมากมายไป ปริมาณเรตติ้งผู้ชมในช่องไม่พอ ซึ่งข้างหลังถูกตัดจบไปก็กำเนิดกระแส #SaveTheExpanse เรียกร้องให้สตูดิโออื่นมารับไปทำต่อ

โดยมีคนลงนามในแคมเปญเกินแสนคน มีเซเลบดังร่วมด้วยอย่างคนแต่ง ซีรี่ย์ฝรั่ง  Game of Thrones George R. R. Martin ก็มาร่วมส่งเสริมเพราะว่าเป็นแฟนซีรีส์หัวข้อนี้ด้วย(ในอีกเกียรติศักดิ์หนึ่งของ The Expanse ก็ถูกชูเป็นมหากาพย์ Game of Thrones อวกาศด้วย) ซึ่งในตอนนั้นปี 2018 ตัวนิยายไปไกลจนถึงแทบจบแล้ว ตัวซีรีส์ก็ขายลง Netflix ทำให้ได้ฐานผู้ชมมากขึ้นอีก ท้ายที่สุดก็มีบิ๊กเซอพงไพรส์ Jeff Bezos บอสใหญ่สุดของ Amazon ประกาศอุ้มรับหัวข้อนี้มาทำต่อภายใต้แพลตฟอร์มสตรีมของ Amazon Prime

แล้วก็ตัดไม่ให้ Netflix ได้ฉายต่อด้วย ซึ่งการที่ Jeff Bezos ลงมาเองคราวนี้ก็เป็นการยืนยันไปถึงแฟนคลับซีรีส์หัวข้อนี้เพราะว่าจะทำจนกระทั่งจบตามนิยายที่วางไว้แน่ๆ (ถึงแม้ในอีกแง่เพื่อช่วยโฆษณา Blue Origin โครงงานอาณานิคมบนพระจันทร์ของเขาที่สอดคล้องกับหัวข้อนี้) เรียกว่านี่จะเป็นซีรีส์มหากาพย์ไซไฟจริงๆที่กำลังจะได้มองนานอย่างต่ำก็อีกถึง 5 ปีถึงจะหมดเรื่องราวนี้ได้บริบูรณ์ แบบที่ Game of Thrones ก็เคยจะเป็น กลับทนรอนักเขียนไม่ไหวเขียนบทเองกระทั่งจบ

กระทั่งแปลงเป็นฟีดแบ็คแง่ลบมากมายก่ายกอง แต่ว่า The Expanse ไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวมาออกจะแน่ๆ เพราะว่ามีพื้นฐานนิยายวางไว้หมดแล้วเรื่องราวของเริ่มในสมัยที่มนุษย์รุ่งเรืองถึงจุดสุดยอดสามารถไปตั้งหลักแหล่งพักอาศัยดำเนินการในอวกาศได้คือเรื่องธรรดาแล้ว แต่ว่ามนุษย์กลับแบ่งข้างเป็น 3 ข้าง โลก ดาวอังคาร กรุ๊ปดาวนพเคราะห์น้อย จากเหตุผลทางด้านการเมือง ความนึกคิด อุดมคติที่ต่างจากการเกิดของคนรุ่นหลังในอวกาศและก็คนสมัยก่อนที่เป็นผู้ก่อกำเนิดมีความคิดกับโลกแปรไป แล้วก็เหตุผลที่สำคัญที่สุดเป็น

ทรัพยากรน้ำกับอากาศในอวกาศยังมีจำกัดมีค่ามากยิ่งกว่าทุกอย่าง ไม่เสมือนโลกที่สุรุ่ยสุร่ายผลาญทรัพยากรทุกสิ่งกระทั่งมีสภาพแวดล้อมมีมลภาวะแปดเปื้อน ราวกับภาวะในยุคนี้ถัดไปที่ยังปรับปรุงแก้ไขมิได้การที่โลกส่งคนกลุ่มนี้ไปตั้งถิ่นฐานที่ใหม่ๆก็เลยแปลงเป็นจุดให้มีการปลดปล่อยมีรัฐบาลดูแลตัวเอง อย่างดาวอังคารก็มีสาเหตุจากการรวมตัวนักวิทยาศาสตร์ทหัวกระทิในสมัยก่อนที่ถูกส่งไปจากโลกเพื่อเพียรพยายามสร้างสถานการณ์ชั้นบรรยากาศให้เสมือนที่โลก (ในเรื่องจำเป็นต้องอยู่แต่ว่าข้างในโดม)

ซึ่งเป็นความฝันร้อยปีมาตั้งแต่สมัยก่อนที่ยังทำไม่เสร็จ  ซีรี่ย์ฝรั่ง ส่วนพวกกรุ๊ปดาวนพเคราะห์น้อยเป็นชนชั้นกรรมกรของสังคม ที่ถูกส่งมาเป็นแรงงานขุดหาทรัพยากรตามดาวเล็กๆส่งคืนไปให้โลกที่พวกเขาก็มิได้กลับไปอาศัยได้ จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นเสมือนขี้ข้าในอวกาศที่ถูกคุมขังด้วยระบบบริหารจากรัฐบาลบนโลกที่มีอำนาจผ่าน UN ในสมัยที่รัฐบาลทั่วทั้งโลกมีปัญหาการปกครอง จนกระทั่งทำให้ผู้คนในกรุ๊ปดาวหนวดเคราห์น้อยคิดแยกตัวเป็นเอกราช โดยมี OPA กรุ๊ปที่เป็นเสมือนกองกำลังที่พากเพียรสร้างความร้ายแรงต่อโลก เพื่อหวังให้โลกตอบรับคำเรียกร้องนี้ (คล้ายวิธีการแยกดินแดนในโลกปัจจุบันนี้)

องค์การสหประชาชาติ (UN) เป็นสมาพันธ์อำนาจอธิปไตยของเมืองเอกราชเดิมซึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายที่ด้านในระบบกาแลคซีกาแลคซี่ทางช้างเผือก จัดตั้งขึ้นในปี พุทธศักราช 2488 ข้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นหน่วยงานระหว่างชาติที่อำนวยความสะดวกในความร่วมแรงร่วมใจในด้านอื่นๆอย่างเช่น กฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดศตวรรษที่ 21 รัฐบาลแห่งชาติของโลกกำลังลดอำนาจสำหรับการบริหารลงโดยตลอด ภายหลังความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นอยู่กับระบบนิเวศของโลก

ถึงระดับที่ร้ายแรงสุดท้ายประเทศต่างๆของ wowslot6 โลกก็ตกลงใจทอดทิ้งผลตอบแทนเฉพาะบุคคลรวมทั้งความต่างระหว่างชาติของตนเองแล้วก็บรรลุการรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในระดับนานาชาติ ถัดมาสำนักเลขาธิการยูเอ็นได้เปลี่ยนเป็นหัวหน้าบริหารของมนุษยชาติทั้งปวงรวมทั้งยังคงอยู่แบบนั้นจวบจนกระทั่งอาณานิคมบนดาวอังคารได้รับเอกราชจากองค์การสหประชาชาติ

The Outer Planets Alliance (OPA) เป็นโครงข่ายกองกำลังที่เชื่อมโยงกันอย่างหละหลวมๆภายใต้อุดมการณ์ร่วมหลักที่อยากเป็นอิสระออกมาจากโลกรวมทั้งดาวอังคาร เริ่มชีวิตในฐานะสหภาพแรงงานหรือกรุ๊ปผู้ให้การสนับสนุนการต่อสู้เพื่อผลตอบแทนของผู้อาศัยในแถบซึ่งมักมีความขัดแย้งโดยตรงกับดาวนพเคราะห์ชั้นใน ทัพเรือผู้สนับสนุน Earth-Mars มีเครื่องหมายแยกแล้วก็กรุ๊ปที่ไม่เหมือนกัน มีหน่วยย่อยตามสถานีทุกหัวระแหง รวมทั้งสถานีหลักสองที่ Tycho Station แล้วก็ Ceres Station ที่เป็นเสมือนฐานที่มั่นกรุ๊ป

จุดเปลี่ยนแปลงของเรื่องราวอยู่ที่การศึกษาค้นพบสิ่งลึกลับจากนอกระบบสุริยะจักรวาลที่ไม่มีข้อมูลชี้ว่ามันเป็นยังไง ก่อนจะไปเกี่ยวโยงกับกรุ๊ปลูกเรือในยานอวกาศเล็กๆลำหนึ่ง ที่ถัดมาเปลี่ยนเป็นกลุ่มที่เป็นตัวเอกของหัวข้อนี้ แล้วก็เป็นจุดแปลงของการถ่วงอำนาจทางด้านการเมืองอีกทั้ง 3 ข้าง จนกระทั่งทำให้สถานะการคงอยู่ของทุกฝ่ายซวดเซไปหมด หรือแม้กระทั้งสถานะความมีชีวิตรอดของคนเราชาติด้วยด้วยเหมือนกัน